.
ทำไม! จึงต้องดูดน้ำมูก ?
.
เมื่อเด็กเล็กๆ เป็นหวัด ช่างเป็นเรื่องที่แสนทรมานใจพ่อแม่เหลือเกิน อยากจะช่วยลูกน้อยให้พ้นจากอาการคัดจมูก หายใจไม่ออก ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี จะหอบลูกไปหาคุณหมอให้คุณหมอใช้เครื่องดูดน้ำมูกออก วิธีการก็ช่างทรมานใจพ่อแม่ พอเห็นลูกร้องไห้จ้าก็แทบอยากจะยกเลิกในทันที ซึ่งส่วนใหญ่ความรู้สึกนี้จะเกิดขึ้นกับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ครั้นจะดูดน้ำมูกเองด้วยลูกยางแดงมือไม้ก็เก้ๆกังๆ เต็มทีคนปกติสามารถสั่งน้ำมูกออกจากช่องจมูกและไอเอาเสมหะออกจากปอดได้ แต่ในกรณีเด็กเล็ก ๆ หรือผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัวหรือมีความพิการทางสมองจะไม่สามารถสั่งน้ำมูก และไอได้เอง จึงต้องทำการดูดเสมหะเพื่อดูดน้ำมูกออกจากช่องจมูกและเป็นการกระตุ้นให้ไอเพื่อขับเสมหะออกจากปอด การที่ไม่มีน้ำมูกในช่องจมูก และไม่มีเสมหะคั่งค้างในปอดจะทำให้เด็กหายใจสะดวกสามารถดูดนมได้ดี และนอนหลับสบาย นอกจากนี้ยังไม่เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค จึงไม่เกิดการติดเชื้อตามมา
.
จะดูดน้ำมูกเมื่อไร
เมื่อมีเสมหะ น้ำมูก และควรดูดก่อนให้นมหรืออาหาร
.
ที่ดูดน้ำมูก มีกี่แบบ?
👉1.ลูกยางแดง
.
การใช้ลูกยางแดง เหมาะกับเด็กเล็กที่มีน้ำมูกใส ไม่เหนียว ปริมาณไม่มาก ลูกยางแดงที่เป็นลูกยางทั้งอันคือส่วนปลายเป็นยางไม่ใช่พลาสติกจะช่วยดูดน้ำมูกในรูจมูก และดูดเสมหะที่โคนคอได้ การดูดเสมหะที่คอจะกระตุ้นให้เด็กไอช่วยขับเสมหะออกมาแล้วดูดเสมหะที่คอออก
.
วิธีใช้ลูกยางแดงดูดน้ำมูก
.
1.ใช้มือข้างที่ถนัดจับลูกยางแดง บีบลมออกให้แฟบ เตรียมพร้อมที่จะดูด ขณะที่มืออีกข้าง จับหน้าเด็กให้เอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง (การจับให้เด็กหันหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง เป็นการป้องกันไม่ให้เด็กสำลักเอาน้ำลายหรืออาหารเข้าปอด หากขณะดูดน้ำมูกหรือเสมหะแล้วเด็กอาเจียนออกมาพร้อม ๆ กัน)
2.สอดลูกยางแดงเข้าไปในรูจมูกทีละข้าง โดยสอดเข้าไปตื้นๆ พร้อมกับปล่อยมือช้าๆ น้ำมูกจะถูกดูดเข้ามาในลูกยางแดง
3.ดึงลูกยางแดงออกจากรูจมูก บีบน้ำมูกที่ดูดมาได้ทิ้งในทิชชู หรือภาชนะที่เตรียมไว้
4.ทำซ้ำ ๆ แบบเดิม และดูดน้ำมูกออกจนหมดในจมูกแต่ละข้าง
.
ข้อดี
.
1.ราคาไม่แพง
2.พกพาได้สะดวก
3.มีแรงดูดมาก
.
ข้อเสีย
.
1.ล้างทำความสะอาดยาก น้ำมูกที่ถูกดูดจะอยู่ในลูกยางแดง ทำให้ไม่รู้ว่าล้างน้ำมูกออกหมดหรือยัง มีคนเคยผ่าดูข้างในลูกยางแดง พบว่ามีเชื้อราอยู่
2.ใช้วิธีควบคุมแรงดูดด้วยมือ ทำให้บางครั้งน้ำมูกถูกดูดออกมาแรงเกินไป ลูกอาจเจ็บได้
3.ลูกยางแดงอาจทิ่มเยื่อบุจมูกลูกได้
.
👉2. เครื่องดูดน้ำมูกชนิดสายยาง
ที่ดูดน้ำมูกชนิดสายยาง ถูกออกแบบเพื่อขจัดปัญหาของการดูดช่วงสั้นในที่ดูดน้ำมูกแบบลูกยางและยังลดแรงดูดที่มากเกินไปในลูกยาง โดยใช้การดูดจากปากของแม่ซึ่งจะมีความต่อเนื่องกว่า สามารถควมคุมแรงดูดด้วยตนเอง น้ำมูกที่ถูกดูดออกมาจะถูกแยกเก็บใส่ขวด ง่ายต่อการมองเห็นและทำความสะอาด น้ำมูกจะไม่ไหลย้อนกลับ ปลายซิลิโคนนิ่ม ไม่ทำให้ลูกน้อยเจ็บโพรงจมูก
.
วิธีใช้ ที่ดูดน้ำมูก ชนิดสายยาง
.
1.ล้างทำความสะอาดที่ดูดน้ำมูกก่อนใช้ทุกครั้ง
2.เหน็บปลายเล็ก (ที่มีรูอากาศใหญ่กว่า) ไว้ที่ปากของแม่
3.อุ้มทารกจัดท่าให้สบายและล็อคศีรษะให้คงที่
4.นำปลายที่มีรูอากาศเล็กเรียวแตะบริเวณปลายจมูกของทารกเบา ๆ
5.คุณแม่ดูดโดยการหายใจเข้าทางปากโดยควบคุมแรงดูดตามแต่คุณแม่ต้องการ
6.ล้างทำความสะอาดโดยล้างถ้วยพบาสติก และสายยางโดยใช้น้ำผ่านรูอากาศทั้งสองรู
7.เก็บไว้ที่สะอาด
.
ข้อดี
.
1.สามารถควบคุมแรงดูดได้ด้วยตนเอง
2.แรงดูดมีความต่อเนื่องกว่าที่ดูดน้ำมูกแบบลูกยางแดง
3.น้ำมูกไม่ไหลย้อนกลับ
.
ข้อเสีย
.
1.คุณพ่อคุณแม่เสี่ยงต่อการติดหวัดจากลูก
.
👉3. เครื่องดูดน้ำมูกอัตโนมัติ
.
เครื่องดูดน้ำมูกอัตโนมัติ จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ดูดน้ำมูกลูกออกมาได้สะดวก เพราะเครื่องถูกออกแบบมาให้ใช้งานแบบอัตโนมัติ เพียงแค่นำเครื่องไปจ่อไว้ที่รูจมูกลูก และกดปุ่มทำงาน ภายในไม่กี่วินาทีเครื่องจะทำการดูดน้ำมูกออกมาไว้ในลูกโป่งที่มีไว้สำหรับเก็บน้ำมูก มีแรงดูดที่เหมาะสม และไม่เป็นอันตรายกับโพรงจมูกลูก เครื่องบางรุ่นจะมีเสียงเพลงเพื่อกลบเสียงดูดน้ำมูก จะทำให้ลูกน้อยไม่รู้สึกกลัวขณะดูดน้ำมูกอีกด้วย
.
วิธีใช้เครื่องดูดน้ำมูกอัตโนมัติ
1.สำหรับน้ำมูกที่เริ่มข้นเหนียว ควรหยอดน้ำเกลือลงไป 3-7 หยดก่อนดูด
2.เปิดเครื่องดูดทันทีที่หยดน้ำเกลือลงไป
3.สอดปลายดูดไปที่จมูกของลูกน้อย ค่อย ๆ หมุนปลายดูดเพื่อให้น้ำมูกออกมาง่ายขึ้น ในกรณีน้ำมูกที่ติดลึกและเหนียวข้น สามารถปรับระดับความแรงให้แรงขึ้น อาจใช้นิ้วปิดจมูกอีกข้างจะช่วยให้ดูดน้ำมูกที่ค้างอยู่ในจมูกออกมาได้ดีขึ้น
4.หลังจากดูดใช้ผ้าสะอาดเช็ดทำความสะอาดรอบจมูกลูกน้อย เพื่อทำความสะอาดอีกครั้ง
.
ข้อดี
.
1.ล้างทำความสะอาดได้ง่าย อุปกรณ์บางส่วนสามารถนำเข้าเครื่องนึ่งขวดนมได้
2.อุปกรณ์ถูกออกแบบมาให้จับถนัดมือ สะดวกต่อการใช้งาน
3.มีแรงดูดที่เหมาะสม ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่เป็นอันตรายกับโพรงจมูกลูกน้อย
4.พกพาสะดวก
5.ดูดน้ำมูกได้ง่าย เร็ว และลูกน้อยไม่ค่อยรู้สึกกลัวขณะดูดน้ำมูก
.
ข้อเสีย
.
1.ราคาแพง เมื่อเทียบกับที่ดูดน้ำมูกแบบอื่น ๆ
2.แรงดูดอาจน้อยไปสำหรับเด็กที่เริ่มโตแล้ว
.
.
👉อย่างที่ทราบกันดีว่าไม่มียาใดที่ฆ่าเชื้อไวรัสหวัดได้ เราจึงไม่สามารถให้ลูกกินยาเพื่อให้ลูกหายหวัดได้ สิ่งที่จะทำให้ลูกหายจากอาการหวัดคือการทำให้ร่างกายแข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารให้ครบ ทานน้ำสม่ำเสมอ และรอเวลาให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อต้านเชื้อไวรัสหวัด ดังนั้น สิ่งเดียวที่พ่อแม่อย่างเราทำได้คือบรรเทาอาการหวัดให้ลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นการทานยาลดน้ำมูก บรรเทาอาการไอต่าง ๆ การล้างจมูก รวมถึงการดูดน้ำมูก ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้อาการจากหวัดมารบกวนการทำให้ร่างกายของลูกน้อยแข็งแรงนั่นเอง
#วิธีใช้เครื่องดูดน้ำมูกอัตโนมัติ #เครื่องดูดน้ำมูกอัตโนมัติ #ที่ดูดน้ำมูก
Credit Amarin Baby&Kids